วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คำศัพท์คอมพิวเตอร์


  1. Software = ชุดคำสั่งหรือโปรแกรม
  2. Hardware = อุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอก
  3. Input unit = หน่วยรับเข้า
  4. Output unit = หน่วยส่งออก
  5. Main Memory unit = หน่วยความจำหลัก 
  6. Secondary memory unit = หน่วยความจรอง
  7. Keyboard = แป้นพิมพ์
  8. Word = คำหรือคำศัพท์
  9. Ram = เก็บข้อมูลและโปรแกรม
  10. Online = การติดต่อ
  11. Upload = การโหลดข้อมูล 
  12. Network = เครือข่าย 
  13. Fax modem = โมเด็มที่ส่งแฟกซ์ได้ 
  14. Web Site = หน้าต่างของเนต 
  15. Antivirus Program = โปรแกรมป้องกันไวรัส
  16. Computer System = ระบบคอมพิวเตอร์
  17. Information System = ระบบขอมูล
  18. Computer Network = ระบบเครือข่าย
  19. User = ผู้ใช้
  20. Account = บัญชีผู้ใช้
  21. USB = หน่วยเก็บข้อมูล
  22. net = แสดงเว็บของบริษัท
  23. Keyword = รหัสของบางโปรแกรม
  24. Multimedia = สื่อประสม
  25. Bus = การเชื่อมต่อเครือข่าย
  26. Browser = เป็นชื่อใช้เรียกซอฟต์แวร์
  27. Bug = ความผิดพลาดของคอม
  28. Database = ฐานข้อมูล
  29. CD-ROM = ตัวจัดการกับแผ่นต่างๆ
  30. Compact Disc = อุปกรณ์ประเภทแผ่น
  31. Mouse = เมาส์
  32. Light pen = ปากกาแสง
  33. Track ball = ลูกกลมควบคุม
  34. Joystick = ก้านควบคุม
  35. Scanner = เครื่องกราดตรวจ
  36. Touch screen = จอสัมผัส
  37. Control Unit = หน่วยควบคุม
  38. Rom = หน่วยความจำแบบอ่าน
  39. Diskette = แผ่นบันทึก
  40. Harddisk = ฮาร์ดดิสก์
  41. Magnetic Tape = เทปแม่เหล็ก
  42. Monitor = จอภาพ
  43. Printer = เครื่องพิมพ์
  44. Laser printer = เครื่องพิมพ์เลเซอร์
  45. Line printer = เครื่องพิมพ์รายบรรทัด
  46. Speaker = ลำโพง
  47. Microsoft Word = โปรแกรมเวิร์ด
  48. Microsoft Excel = โปรแกรมเอกเซล
  49. Microsoft PowerPoint = โปรแกรมเพาเวอร์พอยนต์
  50. Desktop = โปรแกรมเดสทอป


ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์


ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
          1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
          2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
          3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน
          4. การลงมือทำโครงงาน
          5. การเขียนรายงาน
          6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
          โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
          การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คำตอบว่า

3. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน
1.ชื่อโครงงาน
2.ประเภทโครงงาน
3.ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
4.ครูที่ปรึกษาโครงงาน
5.ครูที่ปรึกษาร่วม
6.ระยะเวลาดำเนินงาน
7.แนวคิด ที่มา และความสำคัญ
8.วัตถุประสงค์
9.หลักการและทฤษฎี 
10.วิธีดำเนินงาน
11.ขั้นตอนการปฏิบัติ
12.ผลที่คาดว่าจะได้รับ
13.เอกสารอ้างอิง
4. การลงมือทำโครงงาน
          เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทำโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้

5. การเขียนรายงาน
          การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี้

6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน
          การนำเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทำได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบการรายงานด้วยคำพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงานที่นำมาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ 


วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตัวอย่างโครงงาน

ชื่อ:ภราดรโซไซตี้

โดย:สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ปริญญาตรี คอมพิวเตอร์ 

บทคัดย่อ: เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้พิการทางสายตา มีมากในปัจจุบัน เช่น Text –to-Speech และSpeech Recognition เป็นต้น เทคโนโลยีดังกล่าวถูกออกแบบเพื่อให้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้พิการทางสายตานั้นได้มีชีวิตประจำวันที่ สามารถรับรู้ ค้นหาข้อมูลต่างๆ หากแต่ข้อมูลหรือความรู้ที่มีในปัจจุบัน ซึ่งพบใน Internet ส่วนมาก ยังคงเป็นข้อความ โครงการนี้ จึงพัฒนา ระบบการสร้างหนังสือเสียงออนไลน์Web-Based Sound Information
โครงงานนี้เป็นการนำเทคโนโลยี Web 2.0 และ Social Web มาสร้างระบบ Blog ที่ผู้ใช้งานแม้เป็นผู้พิการทางสายตาก็สามารถใช้งานได้ และระบบภราดรโซไซตี้ยังสร้าง E–volunteer เพื่อร่วมกันสร้างหนังสือเสียง โดยใช้เทคโนโลยี Applet ที่ใช้สามารถใช้งบันทึกเสียงความรู้ที่เป็นเสียงผ่านเว็บไซต์ ได้ทุกที่ทุกเวลาและร่วมกันทำกิจกรรมที่ดีอื่นร่วมกัน

สรุป:เทคโนโลยีดังกล่าวถูกออกแบบเพื่อให้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้พิการทางสายตานั้นได้มีชีวิตประจำวันที่ สามารถรับรู้ ค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้อย่างจัดเจนมากที่สุด

ที่มา:http://www.vcharkarn.com/project/view/651